7 ปัญหาของวัยรุ่นไทย

7 ปัญหาของวัยรุ่นไทย

ถ้าถามคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ว่า วัยรุ่นสมัยนี้เป็นอย่างไร? ส่วนใหญ่ต้องตอบตรงกันว่า ทำไม (มัน) เกรียนได้ใจจริงๆ ตั้งแต่กิริยามารยาท คำพูดในที่ชุมชน การแสดงความคิดเห็นที่สุดโต่ง ขาดสัมมาคารวะ ห่างไกลศาสนา มั่วยาเสพติด ติดเกม ติดเพื่อน ชอบความก้าวร้าวรุนแรง ฯลฯ ทั้งหมดที่กล่าวมาไม่ได้ตั้งใจว่า



วัยรุ่นทั้งหมด แต่เป็นภาพวัยรุ่นส่วนใหญ่ที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ สรรหามาขยายในวันนี้ จึงขอเกาะติด 7 ปัญหาของวัยรุ่นไทย มีอะไร ไปดูกัน


1) ชอบใช้ความรุนแรง ที่เห็นชัดเจนก็คือการแบ่งพวกแบ่งก๊วน ยกพวกตีกัน ใช้ปืนยิงคู่อริ การฆ่าตัวตาย จนบางครั้งกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องเสียใจ จริงๆ แล้วการใช้ความรุนแรงสามารถทำได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงขั้นเสียชีวิต จากการศึกษาพบว่า ในปัจจุบัน เด็กที่ถูกทำร้ายและทำร้ายผู้อื่นจะมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ ผู้ชายจะเป็นทั้งผู้ทำร้ายและผู้ถูกทำร้ายสูงกว่าเด็กผู้หญิง ยกเว้นบางกรณีเรื่องทางเพศ กลุ่มเด็กผู้หญิงจะเป็นผู้ถูกกระทำสูงกว่าเพศชาย ส่วนสาเหตุการตายจากความรุนแรงมักจะมาจากการใช้อาวุธปืน ส่วนความรุนแรงต่อจิตใจ ส่วนใหญ่เป็นการไม่ให้เกียรติ การทำร้ายจิตใจ มีผลทำให้ผู้ถูกกระทำได้รับความเสียใจ เสียสิทธิและเสรีภาพ แนวทางแก้ไขคือ ครอบครัว ที่ต้องอบรมสั่งสอนให้เป็นคนดี มีจิตใจอ่อนโยน มีเมตตาต่อ พ่อแม่ต้องให้ความรัก สนับสนุนลูกในทางที่ถูกที่ควร และรู้จักอบรมให้ลูกสามารถแยกแยะผิดถูก ชั่วดีได้ ไม่ปกป้องลูกในทางที่ผิด อย่าเป็น พ่อแม่รังแกฉัน


2) สารเสพติด ยาบ้า ยาไอซ์ รวมทั้งสารเสพติดอื่นๆ เป็นปัญหาที่พบได้ง่ายในวัยรุ่นปัจจุบัน จริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะหากเยาวชนของชาติหันมาอัพยา ผู้ใหญ่ในอนาคตจะเป็นอย่างไร จากข้อมูลการสำรวจ สาเหตุใหญ่ของการเริ่มเข้าไปใช้ยาเสพติดมักเป็นเรื่องของความ "อยากลอง" บวกกับการ "ตามเพื่อน" หรืออยากได้การยอมรับจากเพื่อนในกลุ่ม ที่อันตรายก็คือเพราะเขารู้สึกว่า "ใครๆ ก็ทำกัน" เป็นเรื่องธรรมดา ทั้งๆ ที่รู้ว่า ยาเสพติดให้โทษมากเพียงใด แนวทางแก้ไขก็คือการสร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยการเอาใจใส่กับลูก ไม่ได้หมายความว่าเริ่มที่วัยรุ่น แต่ต้องเอาใจใส่รักใคร่ ห่วงใยมาโดยตลอด ความผูกพันจะทำให้เด็กรับรู้และเข้าใจว่า ยาเสพติดจะทำให้ครอบครัวของเขาเกิดปัญหา นอกจากนี้ หากลูกคบเพื่อนควรเปิดโอกาสหรือให้การยอมรับ เพื่อให้ลูกอยู่ในสายตา ประเมินพฤติกรรมและความเสี่ยงจากการคบเพื่อน


3) ผีพนัน วัยรุ่นบางคน ชอบความท้าทายด้วยการพนัน นานเข้าทำให้ผีพนันเข้าสิง จนนำมาสู่ปัญหาอื่นๆ ที่ทราบกันดีก็คือ "พนันบอล" ที่หากเข้าไปยุ่งเกี่ยว น้อยรายที่จะรอดพ้นจากหายนะ เพราะถ้าวันนี้ไม่เสีย พรุ่งนี้ก็เสีย และเมื่อไม่มีเงินไปจ่ายตามกำหนด เจ้ามือก็อาจส่งคนมาทำร้าย จนถึงขั้นเสียชีวิตก็มี การเล่นการพนันก่อให้เกิดปัญหา หลายอย่าง เช่น สิ้นเนื้อประดาตัว หมกมุ่น ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม แนวทางสำคัญ ครอบครัวต้องหัดสังเกตความผิดปกติ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลฟุตบอลทั้งไทยและเทศ


4) คบเพื่อนต่างเพศ ทั้งการคบแบบคู่รักและแบบเพื่อนเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ระหว่างผู้หญิงและผู้ชายอาจคิดต่างกัน ผู้หญิงอาจต้องการความรัก ความเอาใจใส่ มีคนปกป้องดูแลได้ อารมณ์แบบโรแมนติก ขณะที่ฝ่ายชาย นอกจากความรัก ความชอบแล้ว ยังพกเอาความใคร่มาด้วย ถ้าหากปล่อยให้อยู่ด้วยกันสองต่อสองบ่อยครั้ง ผู้หญิงอาจใจอ่อนจนในที่สุดก็นำไปสู่การท้องก่อนวัยอันควร นอกจากนี้ หลายคู่ยังต้องพบกับอาการ "อกหักรุกคุด" ต้องพกพาความเศร้าเสียใจ ความชอกช้ำระกำใจ ร้องไห้ฟูมฟายว่า เป็นคนอกหัก ถูกแฟนหรือคนรักหมดรักทอดทิ้ง ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ตามมาได้ แนวทางแก้ไข ครอบครัวต้องสนิทกับวัยรุ่นให้มากขึ้น สอนให้เขาตระหนักในเรื่องความรัก การท้องก่อนแต่ง พูดแบบเปิดใจ รวมทั้งสอนการป้องกันตัวเองหากพลาดพลั้งด้วย


5) พ่อแม่อย่ายุ่งดีกว่า กว่าร้อยละ 80 ของเด็กวัยโจ๋ จะมีการเปลี่ยนแปลงจากเด็กเข้าสู่วัยรุ่นด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะระดับฮอร์โมนในร่างกายกำลังแปรปรวน ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ทำให้มีปัญหา พูดอะไรก็ไม่เข้าหู อยากได้อะไรในทันทีทันใด ไม่ใส่ใจคนอื่น เริ่มแยกตัว ไม่ชอบไปไหนกับพ่อแม่ ชอบที่จะทำอะไรเอง ไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งเกี่ยว บางครั้ง อยู่บ้านก็แยกตัวอยู่ลำพัง ในขณะที่เด็กต้องการอิสระและความเป็นส่วนตัว เด็กจะต้องได้รับความรู้เกี่ยวกับความรับผิดชอบควบคู่ไปด้วยเสมอ ไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาได้อย่างมาก ทำให้เป็นผลเสียต่อการเรียนและความประพฤติ อาจถูกชักนำไปในทางที่ผิดได้ง่าย และเป็นเหตุทำให้เกิด ความขัดแย้งกับพ่อแม่และผู้ปกครองหรือครูได้บ่อย เด็กวัยนี้จะขอสิทธิของตนหลายอย่าง และจะทดสอบผู้ใหญ่ จึงต้องหนักแน่นในการพิจารณาด้วยหลักการและเหตุผลที่จะปฏิบัติกับพวกเขา


6) แชท เล่นเน็ต เฟซบุ้ค เกม นานมาก เป็นการให้เวลากับตนเอง และอยู่ในโลกส่วนตัวที่วัยรุ่นชอบมากที่สุดในช่วงนี้ จนนำไปสู่การติดแชท ติดเกม รวมทั้งเสียเวลาต่อการทำกิจกรรมอย่างอื่น ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาหากใช้เวลากับมันมากไป พ่อแม่ผู้ปกครองจึงควรให้อิสระ และให้กรอบโดยจำกัดเวลาในการเล่นหรือทำกิจกรรมอย่างเคร่งครัด ไม่ใจอ่อนในกรณีที่ลูกมาขอเล่นเกม หรือเล่นเน็ต ในช่วงที่ต้องทำกิจกรรมอย่างอื่น เช่น ทำการบ้าน อ่านหนังสือ นอกจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังในกรณีที่เด็กติดเกม ติดแชท แล้วไปใช้บริการในร้านอินเทอร์เน็ต คาเฟ่ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ เช่น การล่อลวง พนันออนไลน์ เป็นต้น


7) ติดเพื่อน วัยนี้ เป็นที่รู้กันดีว่า อาการติดเพื่อนจนเหนียวหนึบนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก อย่างไรก็ตามผู้ปกครองต้องพยายามแย่งชิงพื้นที่ ด้วยการพูดคุยในเรื่องที่เขาสนใจ พาไปทำกิจกรรมที่เขาชอบ โดยพยายามลดช่องว่างระหว่างวัยให้ได้ พร้อมที่จะฟังและเป็นที่ปรึกษาที่ดี อย่าเคร่งเครียดหรือเคร่งครัดในบางเรื่องจนเกินไป แต่ต้องคุยกันด้วยเหตุผล พยายามยกตัวอย่าง หรือประสบการณ์ในช่วงที่พ่อแม่ผู้ปกครองเป็นวัยรุ่นให้ฟัง อย่างไรก็ตาม วัยรุ่นแทบทุกคนจะให้ความสำคัญเพื่อนฝูงมาก พ่อแม่ต้องใจกว้าง ยอมรับการตัดสินใจของเขาบ้าง ส่วนการคบเพื่อนก็ต้องมีหน้าที่ช่วยให้ลูกวัยรุ่นรู้จักการคบเพื่อน มาเที่ยวที่บ้านหรือทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อสังเกต ให้คำแนะนำ และให้การช่วยเหลือ หากจำเป็น

ที่มา http://variety.teenee.com/foodforbrain/48959.html